ลวดเชื่อมไฟฟ้า และลวดเชื่อมธรรมดา เป็นวัสดุที่ใช้ในการเชื่อมโลหะให้เป็นชิ้นเดียวกัน แต่มีความแตกต่างในด้านวัสดุที่ใช้ทำ คุณสมบัติ และการใช้งาน
โดยลวดเชื่อมไฟฟ้า เป็นลวดเชื่อมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ประกอบด้วยลวดโลหะที่หุ้มด้วยสารเคลือบฟลักซ์ สารเคลือบฟลักซ์จะทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้โลหะเกิดการออกซิเดชัน และช่วยสร้างแก๊สป้องกันไม่ให้อากาศแทรกซึมเข้าไปในแนวเชื่อม ซึ่งลวดเชื่อมไฟฟ้าเหมาะสำหรับงานเชื่อมทั่วไป เช่น เชื่อมเหล็กกล้า เชื่อมสแตนเลส เชื่อมอลูมิเนียม เป็นต้น
ในขณะที่ลวดเชื่อมธรรมดา เป็นลวดเชื่อมที่ไม่หุ้มด้วยสารเคลือบฟลักซ์ ซึ่งลวดเชื่อมธรรมดาเหมาะสำหรับงานเชื่อมที่ไม่จำเป็นต้องป้องกันไม่ให้โลหะเกิดการออกซิเดชัน เช่น เชื่อมเหล็กกล้าในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศบริสุทธิ์ เป็นต้น
ความแตกต่างระหว่างลวดเชื่อมไฟฟ้า และลวดเชื่อมธรรมดา
- วัสดุที่ใช้ทำ ลวดเชื่อมไฟฟ้าทำด้วยลวดโลหะที่หุ้มด้วยสารเคลือบฟลักซ์ ในขณะที่ลวดเชื่อมธรรมดาทำด้วยลวดโลหะ
- คุณสมบัติ ลวดเชื่อมไฟฟ้าสามารถป้องกันไม่ให้โลหะเกิดการออกซิเดชันได้ ในขณะที่ลวดเชื่อมธรรมดาไม่สามารถป้องกันได้
- การใช้งาน ลวดเชื่อมไฟฟ้าเหมาะสำหรับงานเชื่อมทั่วไป ในขณะที่ลวดเชื่อมธรรมดาเหมาะสำหรับงานเชื่อมที่ไม่จำเป็นต้องป้องกันไม่ให้โลหะเกิดการออกซิเดชัน
การเลือกลวดเชื่อมให้เหมาะสมกับงานมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ได้แนวเชื่อมที่มีคุณภาพและแข็งแรง โดยปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกลวดเชื่อม ได้แก่
- ชนิดของโลหะที่ต้องการเชื่อม
- ตำแหน่งที่ต้องการเชื่อม
- ประเภทของงานเชื่อม
- คุณสมบัติที่ต้องการของแนวเชื่อม
โดยหากต้องการเชื่อมโลหะทั่วไป ควรเลือกใช้ลวดเชื่อมไฟฟ้า เพราะเป็นลวดเชื่อมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและเหมาะสำหรับงานเชื่อมทั่วไป แต่หากต้องการเชื่อมโลหะในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศบริสุทธิ์ ควรเลือกใช้ลวดเชื่อมธรรมดา